ด้านเศรษฐกิจและสังคม ปี 2562

ด้านเศรษฐกิจ สังคม >> ด้านเศรษฐกิจ สังคม >> ปี 2562

ผลการศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม

          จากการทบทวนข้อมูลการศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม ระหว่างปี พ.ศ. 2557 – 2561 พบว่า  มีการอ้างอิงเครื่องมือ SIMVA โดยในปี พ.ศ. 2557 – 2558 ใช้การประชุมกลุ่มย่อยเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ในขณะที่ปี พ.ศ. 2559 – 2561 ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ซึ่งในปี พ.ศ. 2559 เก็บข้อมูลในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (250 ชุด) เลย (251 ชุด) หนองคาย (250 ชุด) และบึงกาฬ (249 ชุด) รวม 1,000 ชุด ในปี พ.ศ. 2560 เก็บข้อมูลในพื้นที่ 8 จังหวัด จังหวัดละ 125 ชุด รวม 1,000 ชุด และในปี พ.ศ. 2561 เก็บข้อมูล 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย (196 ครัวเรือน) เลย (98 ครัวเรือน) หนองคาย (70 ครัวเรือน) บึงกาฬ (56 ครัวเรือน) นครพนม (126 ครัวเรือน) มุกดาหาร (14 ครัวเรือน) อำนาจเจริญ (14 ครัวเรือน) และอุบลราชธานี (42 ครัวเรือน) รวม 616 ครัวเรือน ข้อจำกัดของการศึกษาวิจัยที่ผ่านมา คือรูปแบบการเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้ จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ และการประมวลผลการศึกษาที่รวดเร็วสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานวิจัย

          ดังนั้นในปี 2562 ได้เลือกใช้แนวทางการศึกษาที่อ้างอิงเครื่องมือ SIMVA เช่นเดียวกับการศึกษาในปี พ.ศ. 2557 – 2561 ที่ได้ดำเนินการมา เพื่อให้ผลการศึกษาในปี พ.ศ. 2562 มีความต่อเนื่องจากการศึกษาใน 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีการวางแผนเก็บข้อมูลครอบคลุมทั้ง 8 จังหวัด เพื่อให้เป็นตัวแทนครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบและสอดคล้องกับการวิเคราะห์ที่มีการแยกวิเคราะห์แต่ละจังหวัด สำหรับจำนวนกลุ่มตัวอย่างของแต่ละจังหวัดกำหนดให้เก็บแบบสอบถามครัวเรือนจำนวน จังหวัดละ 100 ชุด รวม 800 ชุด เพื่อให้ผลการศึกษาสะท้อนสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละจังหวัดและสามารถนำข้อมูลของแต่ละจังหวัดมาเปรียบเทียบได้ และมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้เลือกเทคโนโลยี Google Form เข้ามาใช้ในการเก็บข้อมูล เพื่อให้ได้ผลการศึกษาที่สามารถนำเสนอต่อภาคีเครือข่ายและภาคประชาชน ได้รวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการสร้างการเรียนรู้ร่วมกันของภาคีเครือข่าย

1. ประชากรและพื้นที่ริมแม่น้ำโขง

          พื้นที่พรมแดนริมแม่น้ำโขงของประเทศไทย แบ่งตามเขตการปกครองระดับอำเภอครอบคลุม 28 อำเภอ มีพื้นที่รวม 9,552,217 ไร่ ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2561 มีประชากรแจงนับได้รวม 1,325,961 คน   มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 414,973 ครัวเรือน มีประชากรโดยเฉลี่ย 3.2 คนต่อครัวเรือน ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจำนวนประชากรรายอำเภอ พบว่าเขตการปกครองอำเภอเมืองนครพนมเป็นอำเภอที่มีประชากรมากที่สุด โดยมีประชากร 118,342 คน รองลงมาได้แก่ อำเภอโพนพิสัย มีจำนวน 96,149 คน อำเภอศรีเมืองใหม่             มีประชากร 93,732 คน ส่วนอำเภอบุ่งคล้ามีประชากรอาศัยอยู่น้อยที่สุด มีประชากร 14,000 คน ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยต่อปีของประชากรระหว่างปี พ.ศ. 2554 – 2561 พบว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของประชากรของแต่ละพื้นที่มีการเติบโตไม่สูงมากนักอยู่ในช่วงร้อยละ -0.08 ถึง +0.04 รายละเอียดแต่ละพื้นที่พิจารณาได้จากตารางที่ 1 และรูปที่ 1

ตารางที่ 1 จำนวนประชากรและความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่รายอำเภอพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ปี พ.ศ. 2561

พื้นที่ ประชากร ครัวเรือน ประชากรต่อครัวเรือน พื้นที่ (ไร่) ความหนาแน่นประชากร (คนต่อไร่)
จังหวัดเชียงราย 1,292,130 538,852 2.40
อ. เชียงแสน 48,516 20,757 2.34 284,339 0.17
อ. เชียงของ 25,495 10,133 2.52 476,442 0.05
อ. เวียงแก่น 35,549 12,379 2.87 287,960 0.12
รวม 109,560 43,269 2.53 1,048,741 0.10
จังหวัดเลย 642,773 219,935 2.92    
อ. เชียงคาน 38,169 13,355 2.86 528,372 0.07
อ. ปากชม 33,514 10,799 3.10 605,752 0.06
รวม 71,683 24,154 2.97 1,134,124 0.06
จังหวัดหนองคาย 522,103 172,982 3.02
อ. ท่าบ่อ 61,409 17,784 3.45 223,917 0.27
อ. โพนพิสัย 96,149 30,309 3.17 514,382 0.19
อ. เมืองหนองคาย 74,984 23,135 3.24 305,573 0.25
อ. รัตนวาปี 38,739 12,509 3.10 184,422 0.21
อ. ศรีเชียงใหม่ 23,907 7,130 3.35 95,655 0.25
อ. สังคม 21,990 6,899 3.19 287,354 0.08
รวม 317,178 97,766 3.24 1,611,303 0.20
จังหวัดบึงกาฬ 423,940 133,062 3.19
อ. บึงโขงหลง 27,791 8,521 3.26 215,035 0.13
อ. บุ่งคล้า 14,000 4,059 3.45 169,731 0.08
อ.ปากคาด 28,519 9,204 3.10 176,187 0.16
อ. เมืองบึงกาฬ 66,549 21,912 3.04 560,942 0.12
รวม 136,859 43,696 3.13 1,121,895 0.12
จังหวัดนครพนม 718,786 223,957 3.21    
อ. ท่าอุเทน 54,658 15,271 3.58 350,077 0.16
อ. ธาตุพนม 72,753 21,343 3.41 213,503 0.34
อ. บ้านแพง 26,564 7,734 3.43 189,779 0.14
อ. เมืองนครพนม 118,342 34,630 3.42 488,651 0.24
รวม 272,317 78,978 3.45 1,242,010 0.22
จังหวัดมุกดาหาร 352,282 114,014 3.09
อ. ดอนตาล 38,734 11,144 3.48 311,132 0.12
อ. เมืองมุกดาหาร 79,057 25,764 3.07 754,026 0.10
อ. หว้านใหญ่ 19,673 5,893 3.34 67,695 0.29
รวม 137,464 42,801 3.21 1,132,853 0.12
จังหวัดอำนาจเจริญ 378,621 115,810 3.27    
อ. ชานุมาน 38,430 11,269 3.41 366,762 0.10
รวม 38,430 11,269 3.41 366,762 0.10

ที่มา : สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง (2561)  และกรมพัฒนาที่ดิน (2561)

 

รูปที่ 1 จำนวนประชากรรายอำเภอ พื้นที่ริมแม่น้ำโขงของประเทศไทย

ที่มา : สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง (2561)  และกรมพัฒนาที่ดิน (2561)

2. ประชากรวัยแรงงาน

          เมื่อพิจารณาถึงลักษณะของประชากรของพื้นที่ศึกษาพบว่า ในปี พ.ศ. 2561 มีประชากร    วัยทำงานทั้งหมด 873,064 คน คิดเป็นร้อยละ 65.84 ของประชากรทั้งหมด โดยพบสัดส่วนประชากรวัยแรงงานมากที่สุดในอำเภอเมืองหนองคาย ร้อยละ 69.66 รองลงมาได้แก่ อำเภอดอนตาล ร้อยละ 69.25 อำเภอท่าบ่อ ร้อยละ 69.19 อำเภอเมืองมุกดาหาร ร้อยละ 69.10 ตามลำดับ และอำเภอศรีเมืองใหม่มีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานน้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ 48.21 รายละเอียดตามตารางที่ 2 และรูปที่ 2

 ตารางที่ 2 จำนวนและสัดส่วนประชากรวัยแรงงานของพื้นที่อำเภอริมแม่น้ำโขง

พื้นที่ ประชากร (คน) ประชากรวัยแรงงาน (คน)

สัดส่วน (ร้อยละ)

จังหวัดเชียงราย 1,292,130
อ. เชียงแสน 48,516 29,227 60.24
อ. เชียงของ 25,495 16,481 64.64
อ. เวียงแก่น 35,549 20,878 58.73
รวม 109,560 66,586 60.78
จังหวัดเลย 642,773
อ. เชียงคาน 38,169 25,175 65.96
อ. ปากชม 33,514 22,225 66.32
รวม 71,683 47,400 66.12
จังหวัดหนองคาย 522,103
อ. ท่าบ่อ 61,409 42,491 69.19
อ. โพนพิสัย 96,149 65,940 68.58
อ. เมืองหนองคาย 74,984 52,235 69.66
อ. รัตนวาปี 38,739 25,904 66.87
อ. ศรีเชียงใหม่ 23,907 15,901 66.51
อ. สังคม 21,990 15,033 68.36
รวม 317,178 217,504 68.57
จังหวัดบึงกาฬ 423,940    
อ. บึงโขงหลง 27,791 18,818 67.71
อ. บุ่งคล้า 14,000 9,292 66.37
อ.ปากคาด 28,519 19,073 66.88
อ. เมืองบึงกาฬ 66,549 45,156 67.85
รวม 136,859 92,339 67.47
จังหวัดนครพนม 718,786
อ. ท่าอุเทน 54,658 36,696 67.14
อ. ธาตุพนม 72,753 50,110 68.88
อ. บ้านแพง 26,564 17,574 66.16
อ. เมืองนครพนม 118,342 81,043 68.48
รวม 272,317 185,423 68.09
จังหวัดมุกดาหาร 352,282
อ. ดอนตาล 38,734 26,822 69.25
อ. เมืองมุกดาหาร 79,057 54,628 69.10
อ. หว้านใหญ่ 19,673 13,560 68.93
รวม 137,464 95,010 69.12
จังหวัดอำนาจเจริญ 378,621
อ. ชานุมาน 38,430 25,889 67.37
รวม 38,430 25,889 67.37
จังหวัดอุบลราชธานี 1,874,548
อ. เขมราฐ 31,473 20,740 65.90
อ. โขงเจียม 35,239 22,822 64.76
อ. นาตาล 38,129 24,964 65.47
อ. โพธิ์ไทร 43,897 29,199 66.52
อ. ศรีเมืองใหม่ 93,732 45,188 48.21
รวม 242,470 142,913 58.94
รวมทั้งหมด 1,325,961 873,064 65.84

ที่มา : สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง (2561)

หมายเหตุ : ประชากรวัยแรงงาน หมายถึง ประชากรที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี

 

รูปที่ 2 สัดส่วนประชากรวัยแรงงานของพื้นที่อำเภอริมแม่น้ำโขง

ที่มา : วิเคราะห์ข้อมูลจาก สำนักทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง (2561)

หมายเหตุ : ประชากรวัยแรงงาน หมายถึง ประชากรที่มีอายุระหว่าง 15 – 60 ปี ประชากรวัยพึ่งพา หมายถึง ประชากรวัยแรกเกิด – 14 ปี และตั้งแต่ 61 ปีขึ้นไป

          ด้านการจ้างงานทั้งหมดของพื้นที่ ในปี พ.ศ. 2561 พิจารณาเป็นรายครัวเรือน พบว่า ครัวเรือนทั้งหมดในพื้นที่ศึกษามีทั้งหมด 414,973  ครัวเรือน (ประชากรต่อครัวเรือนเฉลี่ยเท่ากับ 3.2 คน) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีจำนวน 228,525 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 56.07 ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด โดยพื้นที่ที่มีครัวเรือนเกษตรกรมากที่สุดอยู่ที่อำเภอเมืองนครพนม จำนวน 17,057 ครัวเรือน (ร้อยละ 49.25) รองลงมาได้แก่ อำเภอเมืองมุกดาหาร จำนวน 16,892 ครัวเรือน (ร้อยละ 65.65) อำเภอศรีเมืองใหม่ จำนวน 13,655 ครัวเรือน (ร้อยละ 41.59) และ อำเภอเมืองบึงกาฬ มีจำนวน 13,247 ครัวเรือน (ร้อยละ 60.46) ตามลำดับ รายละเอียดสามารถพิจารณาได้จากตารางที่ 2-38

3. เศรษฐกิจการเกษตรริมแม่น้ำโขง

          จากพื้นที่ทั้ง 28 อำเภอ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีพื้นที่รวม 9,552,217 ไร่ มีพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ จำนวน 4,410,689 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 46.17 ของพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนี้อำเภอรัตนวาปี จังหวัดหนองคายเป็นพื้นที่ที่มีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ที่ดินในการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสูงที่สุด คิดเป็นร้อยละ 85.53 รองลงมา ได้แก่ อำเภอปากคาด จังหวัดบึงหาฬ ร้อยละ 83.24 อำเภอเมืองบึงกาฬ ร้อยละ 77.95 ตามลำดับ ทั้งนี้ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจในสัดส่วนต่ำที่สุด คิดเป็นร้อยละ 8.76 การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์กับความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินและแหล่งน้ำ แสดงถึงความสำคัญของการเพาะปลูกอันมีผลต่อความสามารถทางเศรษฐกิจของการกสิกรรมของพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดของแต่ละพื้นที่ได้ดังตารางที่ 2-38

          ในภาพรวมพื้นที่อำเภอริมแม่น้ำโขง พืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเพาะปลูกมากที่สุดได้แก่ ที่นาสำหรับปลูกข้าวมีพื้นที่  1,404,708 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 44.59 รองลงมา ได้แก่ ยางพารา 895,009 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 28.41 อ้อย 227,262 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 7.21 ตามลำดับ ทั้งนี้ แต่ละพื้นที่มีกิจกรรมการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจริมแม่น้ำโขงที่แตกต่างกัน สามารถพิจารณาข้อมูลทั้งหมดได้จากรูปที่ 3

รูปที่ 3 สัดส่วนการใช้ที่ดินเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจการเกษตรพื้นที่อำเภอริมแม่น้ำโขง

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (2561)